ซูชิ 5 บาท
ซื้อง่าย-ขายคล่อง
ยุคนี้คนหันมาบริโภคอาหารญี่ปุ่นไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะที่ขึ้นชื่อเลยเห็นจะเป็น "ซูซิ" เรียกได้ว่าตีตลาดอาหารทานเล่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ด้วยข้าวที่เหนียวเป็นเอกลักษณ์แถมยังโรยหน้าด้วยสาหร่าย ปูอัด กุ้ง และอีกหลายๆ หน้าที่ชวนให้ชิม ผสมกับรสของวาซาบิ จึงทำให้ธุรกิจนี้ทำเงินได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาเบาๆ แค่ 5 บาท และปรับรสชาติให้เหมาะกับปากคนไทย จึงกลายมาเป็นอาหารที่ซื้อง่ายขายคล่อง มีขายทั่วไปในทุกพื้นที่
การลงทุน
ใช้ข้าวสวยประมาณ 7 กิโลกรัมต่อวัน ข้าว 8 ถ้วยตวง จะทำชูชิได้ 250 คำ คิดเป็นต้นทุนก็หลักสตางค์
ส่วนต้นทุนหน้าชูชิหน้าที่คนนิยมซื้อ เช่น หน้ากุ้งต้นทุนตัวละ 1 บาท ต้นทุนข้าว 30 สตางค์ คิดเป็นต้นทุนต่อคำ 1.50 บาท แต่ขายชูชิในราคา 5 บาท กำไร 3.50 บาท คิดเป็น 200% จากต้นทุน ถ้าเป็นชูชิหน้าปลาแชลมอนหน้าปลาไหล ต้นทุนจะสูงขึ้น อยู่ที่คำละ 4 บาท ซึ่งส่วนใหญ่ตามร้านชูชิ 5 บาท จะตัดหน้าปลาแชลมอนออกไปเลย แต่ถ้าจะขายก็อาจจะเปลี่ยนราคาเป็นชูชิ 10 บาท
ซึ่งปกติแล้วราคาโดยประมาณ ยำสาหร่ายเขียว (250-500 กรัม ราคา 75 บาท, ไข่กุ้งส้ม (500 กรัม) ราคา 165 บาท, หอยลายปรุงรสกิมจิ (500 กรัม) ราคา 160 บาท, วาซาบิสด เกรด A (200 ซอง) ราคา 280 บาท
หรือจะเพิ่มความหลากหลายของหน้า ด้วยแฮม ปลาชาบะ ก้ามปู หอยเซลล์ ประมาณแล้วใช้เงินลงทุนวัตถุดิบ รวมวันละ 3,000-4,000 บาท (ไม่รวมอุปกรณ์ตกแต่งร้าน) และการลงทุนขึ้นอยู่กับจำนวนหน้าของการผลิต
โดยขายในราคาชิ้นละ 5 บาท
วัสดุอุปกรณ์
1. ข้าวญี่ปุ่น กิโลกรัมละประมาณ 50 บาท
2. หน้าชูชิต่างๆ แล้วแต่จำนวนหน้าที่เราต้องการนำมาขาย หากนำมาสัก 9 หน้า ลงทุนอีกประมาณ 2,000-3,000 บาท ก็จะได้หน้ามาทำหลากหลาย แผ่นสาหร่าย ซอสญี่ปุ่น วาซาบิ
3. ถาดอะคริลิกดำแดงและกล่องใส่ชูชิ ราคาประมาณ 450 บาทต่อใบ ขนาดกว้าง 10 นิ้ว x ยาว 14 นิ้ว x สูง 2 นิ้ว x หน้า 4 มิลลิเมตร
4. ถาดพลาสติกแข็ง พร้อมฝาครอบ (สีแดง สีชา) ราคา 80 บาท
5. หญ้าเทียม (30x30 เซนติเมตร) ราคา 120 บาท
6. โคมไฟญี่ปุ่นเกรด A (10 นิ้ว) ราคา 450 บาท
7. ตะเกียบไม้แบบใช้แล้วทิ้ง แพ็ค 600 คู่ ราคา 150 บาท
รายได้ รวย รวย รวย
ราคาขายอยู่ที่ชิ้นละ 5 บาท ถ้าขายได้วันละ 1,000 ชิ้น ก็เท่ากับ 5,000 บาท หักเงินลงทุนวันละ 3,000 กำไรวันละ 2,000 บาท 1 เดือนเท่ากับ 60,000 บาท แต่หากได้ทำเลดีๆ คนพลุกพล่าน ตามห้างหรือออกบูธตามงานต่างๆ อาจขายได้ถึงวันละ 2,000 ชิ้นเลยทีเดียว มีแต่รวย รวย รวย
แรงงาน
หนึ่งคนก็สามารถทำได้ เพียงแต่ส่วนหนึ่งเราต้องเตรียมทำชูชิมาจากบ้านด้วยการจัดเก็บในกล่อง หรือหากพอมีเวลาจะทำสดๆ หน้าร้ายเลยก็ได้ แต่ถ้าหากขายดีจริงๆ คนเยอะจนทำแทบไม่ทัน หาพนักงานขายเพิ่มอีกสักคน จะทำให้ขายได้เร็วยิ่งขึ้น
วิธีการดำเนินธุรกิจ
- หุงข้าว ด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบบปกติ (เติมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ) ละลายเข้าไป เพื่อข้าวจะได้ไม่จืด ราดลงไปให้ทั่วข้าว หลังจากข้าวสุกแล้ว
- นำข้าวที่สุกใส่ภาชนะพลาสติกสีขาวอย่างดี พักไว้รอข้าวเย็น
- นำข้าวที่เย็นแล้วมาม้วน ด้วยสาหร่ายแผ่นขนาดประมาณ 8 x 5 นิ้ว โดยใช้แผ่นไม้ม้วนข้าวที่ทำมาจากไม้ นำสาหร่ายวางลงไปบนแผ่นม้วนข้าว
- จากนั้นตักข้าวประมาณ 1 ทัพพีลงไปบนสาหร่าย เกลี่ยข้าวให้ทั่ว
- แล้วบีบมายองเนสตามแนวขวางบนแผ่นสาหร่ายด้านบน เพื่อให้แผ่นสาหร่ายติดกันเวลาม้วน
- จากนั้นทำการม้วนข้าวให้เป็นก้อนกลม แล้วใช้กรรไกรคมกริบตัดข้าวห่อสาหร่ายออกมาเป็นชิ้นๆ (ข้าวห่อสาหร่าย 1 แท่ง จะตัดออกมาได้ 8 ชิ้น)
- แล้วนำหน้าชูชิมาใส่ ไม่ว่าจะเป็นไข่กุ้งส้ม กุ้งต้ม ปูอัด ไข่หวาน แมงกะพรุน หนวดปลาหมึก เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้า
ทำเลประกอบธุรกิจ
ควรเลือกทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่าน ย่านชุมชน ใกล้สถานที่ราชการหรือสถานศึกษา แต่ต้องสำรวจให้ดีว่ายังไม่มีใครขายสินค้าประเภทเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว ไม่งั้นไปเปิดขายแข่งกันก็เหนื่อยทั้งคู่ ไม่ดีแน่
รูปแบบการขาย
1. ขายแบบจัดใส่กล่องพร้อมวางขาย
จัดชูชิลงกล่องแล้วนำพลาสติกใสๆ มาปิดให้ลูกค้ามองเห็น ขนาดบรรจุประมาณ 6 ชิ้น ขายในราคากล่องละ 30 บาท เพื่อลดความวุ่นวายในระหว่างขาย เหมาะสำหรับงานวัด ออกบูธตามงานแสดงสินค้าต่างๆ
แต่มีข้อเสียตรงที่ลูกค้าไม่อาจเลือกหน้าชูชิแบบที่ต้องการได้ เพราะเราคละลงกล่องไปหมดแล้ว หรืออาจมองว่าชูชิไม่สดใหม่
2. แบบตั้งโต๊ะ เตรียมสินค้าใส่ถาดพร้อมให้ลูกค้าเลือก
นำชูชิที่ทำเสร็จแล้วใส่ถาดอย่างละถาดให้ลูกค้าเลือกรับประทานก่อนจัดลงในกล่อง ข้อดีคือลูกค้าสามารถเลือกรับประทานตามใจชอบ และตามจำนวนที่ต้องการได้ ข้อเสียคือ ลูกค้าอาจมองว่าไม่สดใหม่ เพราะไม่รู้ว่าทำไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่
3. ขายแบบสดๆ ใหม่ๆ ทำให้เห็น
คือทำขายให้ดูกันสดๆ จะทำให้ลูกค้าคึกคักเพลิดเพลินกับการดู และได้ของสดใหม่ๆ กลับไปทาน แต่ข้อเสียอยู่ตรงผู้ขายต้องเตรียมอุปกรณ์หลายอย่าง ทำให้ยุ่งยากและเกิดความล่าช้าในการขาย
ข้อแนะนำในการทำธุรกิจชูชิ 5 บาท
- การซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับทำชูชิ เริ่มต้นจะมากหน่อย แต่ต่อๆ ไปจะเหลือเพียงต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบเท่านั้น
- อุปกรณ์ที่ใช้แล้วต้องดูแลรักษาความสะอาดดีๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานที่สุด จะได้ไม่ต้องหาซื้อใหม่บ่อยๆ
- เลือกคุณภาพวัดถุดิบที่ดีๆ อย่าหวังแต่กำไร ไม่งั้นจะเจ๊ง
- ควรใช้ข้าวญี่ปุ่นในการห่อ เพราะจะกลมสวยกว่าข้าวไทย และมีความเหนียวปั้นง่าย
- คิดไอเดียใหม่ๆ ด้วยการออกแบบหน้าชูชิต่างๆ จะช่วยเพิ่มความหลากหลาย และดึงดูดให้ลูกค้าแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนร้านมากขึ้น
- ในหน้าร้านนั้นควรมีหน้าชูชิให้เลือกรับประมาณอย่างน้อย 8-9 หน้า
- พ่อค้า แม่ขายต้องอารมณ์เย็น ต้องมีความประณีตเพื่อความสวยงาม ที่สำคัญของที่ใช้แต่งหน้าชูชินั้น ต้องทำให้ดูมาก พูน น่าทาน ซึ่งก็ต้องตักเยอะจริงๆ เมื่อลูกค้าซื้อไปทานแล้ว จะได้คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป
นอกจากนี้หากไม่มีความถนัดทางด้านการทำชูชิยังมีแฟรนไซส์ชูชิให้บริการ อาทิ
โมกุน ซูชิ เจ้าของแฟรนไซส์โมกุน ซูชิ ที่มีสาขากว่า 100 แห่ง สามารถลงทุนระบบแฟรนไซส์แบบไม่เสียค่าแฟรนไซส์ ไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า และไม่บังคับซื้อสินค้า โดยจะเปิดสอนอาชีพให้ผู้ประกอบการมือใหม่หัดขาย
เริ่มตั้งแต่พื้นฐานกับอีก 40 หน้าชูชิ ค่าอบรม 2,000 บาทต่อคน
หลักสูตร 1 วัน อบรม 4-5 ชั่วโมง ทุกวันอักงคารและศุกร์ รับผู้อบรม 1-3 คนต่อรอบ เพราะต้องการสอนแบบใกล้ชิด ผู้เรียนได้ลงมือทำทุกคน ไม่ได้เรียนแบบชะโงกดู รับประกันได้ว่าเรียนจบออกไปทำได้ทุกคน
คนที่ไม่ได้มาอบรมกับโมกุนก็สามารถซื้อวัตถุดิบได้ ส่วนใครที่อบรมแล้วต้องการเปิดร้านขายจริงจัง ก็สามารถซื้อแฟรนไซส์โมกุน ซูชิไปประกอบธุรกิจได้ทันที
โดยราคาชุดแฟรนไซส์พร้อมขาย รวยเร็ว 1 ค่าแฟรนไซส์ 1,500 บาท จะได้รับป้ายโมกุนชูชิ ครบชุด ส่วนอุปกรณ์ที่ใช้ภายในร้าน สามารถเลือกซื้อสินค้าเองได้ เหมาะสำหรับคนที่มีร้านอยู่แล้ว แต่ต้องการติดแบรนด์โมกุน
และรูปแบบชุดรวยเร็ว 2 ค่าแฟรนไซส์ 9,000 บาท จะได้รับป้ายโมกุนครบชุด โครงคีออสก์ถอดประกอบได้ ถาดใส่ซูชิอะคริลิกสีดำขอบแดง 8 ใบ ที่คีบซูชิ 6 อัน กล่องใส่ซูชิใบใหญ่ 100 ใบ กล่องใส่ซูชิใบเล็ก 100 ใบ ตะกร้าใส่ตะเกียบ วาซาบิ และซอส ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้ สามารถเปิดร้านขายได้ทันที
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โมกุน ซูชิ
โทรศัพท์ 081-808-0124, 086-034-1012, 02-171-6895
www.mokunsushi.net
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น